ขาย INVERTER Schneider ATV312


จำหน่าย, ขาย INVERTER Schneider ATV312 วันนี้มีมาแนะนำ 1 รุ่น นั่นก็คือ ATV312H037N4 ที่มี Power อยู่ที่ 0.37Kw 380V ตัวคุณภาพ นำเข้าจากต่างประเทศ
โดยมีสเป็คดังนี้
range of productAltivar 312
product or component typeVariable speed drive
product destinationAsynchronous motors
product specific applicationSimple machine
assembly styleWith heat sink
component nameATV312
motor power kW0.37 kW
motor power hp0.5 hp
[Us] rated supply voltage380…500 V (- 15…10 %)
supply frequency50…60 Hz (- 5…5 %)
Phase3 phases
line current2.2 Afor 380 V, 5 kA
1.7 Afor 500 V
EMC filterIntegrated
apparent power1.5 kVA
maximum transient current2.3 Afor 60 s
power dissipation in W32 W at nominal load
speed range1…50
asynchronous motor control profileFactory set : constant torque
Sensorless flux vector control with PWM type motor control signal
electrical connectionL1, L2, L3, U, V, W, PA, PB, PA/+, PC/- terminal 0.01 in² (5 mm²) AWG 10
Al1, Al2, Al3, AOV, AOC, R1A, R1B, R1C, R2A, R2B, LI1…LI6 terminal 0 in² (2.5 mm²) AWG 14
supplyInternal supply for logic inputsat 19…30 V, <= 100 mAfor overload and short-circuit protection
Internal supply for reference potentiometer (2.2 to 10 kOhm)at 10…10.8 V, <= 10 mAfor overload and short-circuit protection
communication port protocolCANopen
Modbus
IP degree of protectionIP20 on upper part without cover plate
IP21 on connection terminals
IP31 on upper part
IP41 on upper part
option cardCANopen daisy chain communication card
DeviceNet communication card
Fipio communication card
Modbus TCP communication card
Profibus DP communication card
โทรสอบถามที่ 02-9444511-13
หรือสอบถามได้ทาง FACEBOOK ของเรา

ขายอะไหล่เครื่องจักร ที่ไม่ได้มีเพียงแค่จัดหาอะไหล่



โดยปกติแล้ว ร้านค้าที่จะสามารถผูกใจลูกค้าได้อย่างยาวนานนั้น นอกจากจะมีสินค้าที่มีคุณภาพเป็นมาตรฐานแล้ว ยังต้องมีการบริการที่ดีเยี่ยมอีกด้วย  ซึ่งไม่เพียงแต่ร้านขายของทั่วไปที่จะประสบความสำเร็จจากการบริการ เพราะแม้แต่ธุรกิจใหญ่ๆอย่าง ร้าน ขายอะไหล่เครื่องจักร การบริการก็ยังถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่จะสามารถผูกใจลูกค้าไว้ได้  แถมยังสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว ชนิดที่เรียกได้ว่า ดูแลกันไปตั้งแต่เริ่มแรกจนธุรกิจเติบโตเลยทีเดียว
            ซึ่งโดยปกติแล้ว ร้าน ขายอะไหล่เครื่องจักร นั้นจะทำหน้าที่จัดหาอะไหล่และเครื่องจักรเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า  โดยการสต็อคอะไหล่ก็จะต้องมีความครอบคลุม เพื่อให้เมื่อลูกค้าต้องการสินค้า ก็ส่งมาส่งต่อให้ด้วยความรวดเร็วและทันท่วงที เพราะหากการสั่งสินค้าใช้เวลานานเกินไปก็อาจสร้างความเสียหายให้แก่ธุรกิจได้  โดยนอกจากจะต้องมีการสต็อคสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแล้ว อะไหล่ที่จัดหามาก็จะต้องมีคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เกิดความเสียหายกับระบบการทำงานอีกด้วย
            สำหรับบริการของ ร้าน ขายอะไหล่เครื่องจักร ที่มีความพิเศษไปจากร้านค้าขายอะไหล่ทั่วไปนั้น ก็คือคุณภาพของการบริการ  โดยแต่ละครั้งที่ลูกค้ามีการสั่งซื้อสินค้าไปจากร้าน เจ้าหน้าที่เทคนิคซึ่งมีความเชี่ยวชาญนั้น จะทำการทดสอบอุปกรณ์ให้ทุกคครั้ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่รับไปจะสามารถใช้งานได้จริง แถมไม่ทำให้ลูกค้าต้องเสียเวลากับมาเปลี่ยนอะไหล่อีกครั้ง  นอกจากนี้ ยังมีระบบรับประกันสินค้าในกรณีที่อะไหล่เกิดมีปัญหาขึ้นในภายหลัง  ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่า หากลูกค้ารับอุปกรณ์จากทางร้านไป จะสามารถใช้งานได้และมีผู้รับผิดชอบจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน
            นอกจากบริการสำหรับสินค้าที่ซื้อไปแล้ว ช่างผู้เชี่ยวชาญใน ร้าน ขายอะไหล่เครื่องจักร ยังสามารถเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหาในด้านการใช้ง่ายเครื่องจักรอีกด้วย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของกิจการขนาดเล็กที่ไม่ได้มีช่างประจำเครื่อง รวมทั้งตัวเจ้าของเองไม่ได้มีความรู้ด้านงานช่างและเครื่องจักรอุตสาหกรรมากนัก  ก็สามารถติดต่อขอข้อมูลจากช่างหรือให้ช่างจากทางร้านเข้ามาดูตัวเครื่องจักร เพื่อวินิจฉัยว่าการที่เครื่องจักรมีปัญหานั้นอาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุใด และควรเปลี่ยนอะไหล่ตัวไหนจากทางร้านอีกด้วย
            ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคุณภาพด้านการขาย การคัดเลือกสินค้า หรือบริการหลังการขายนั้น ก็ถือเป็นจุดวัดระดับคุณภาพของ ร้านอะไหล่เครื่องจักร ที่ดี  ซึ่งความจริงใจต่อลูกค้านั้นจะทำให้เกิดการใช้บริการอย่างต่อเนื่องยาวนานโดยเฉพาะกับลูกค้าที่เป็นธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งนั่นหมายถึงความสัมพันธ์อันดีที่จะทำให้ทั้งธุรกิจและร้านอะไหล่เติบโตได้อย่างมั่นคงเช่นเดียวกัน

อย่าลืมติดตาม Facebook Fanpage เพื่อไม่พลาดโปรโมชั่นดีดี

Touch Screen หรือจอสัมผัส เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากดตำแหน่งไหนบนจอ

Touch screen หรือจอสัมผัส

Touch screen หรือจอสัมผัส ในแวดวงอุตสาหกรรมย่อมเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางกับการซื้อ ขาย Touch screen Mitsubishi ซึ่งในเรื่องของการใช้งานแน่นอนว่า
ระบบเป็นส่วนสำคัญ วันนี้เราขอเอาภาพรวมของ Touch screen มาฝากทุกท่านครับ
ในส่วนของ Touch screen จะมีหน้าจอสัมผัสที่เรียกว่ารู้ตำแหน่ง
ที่เราต้องการสัมผัสเลยทีเดียว แล้วเครื่องนี้เค้ารู้ได้ยังไง ว่าเราต้องการสัมผัส
หรือว่าออกคำสั่งกับอะไร แน่นอนว่าเครื่องแบบ Touch screen ทั้งหลาย 
ต้องมีระบบพื้นฐาน 3 ระบบด้วยกันคือ ตัวต้านทาน (resistive) 
ตัวเก็บประจุ (capacitive) คลื่นเสียงที่ผิวของหน้าจอ (surface acoustic wave) 
แล้วแต่ละตัวทำงานกันยังไง มาดูกันเลยครับ 

– ตัวต้านทาน (resistive) จะมีอยู่ 2 ตัวด้วยกัน โดยที่จะมีช่องกระจกกั้น
เคลือบด้วยตัวนำและตัวต้านทาน ซึ่งทั้งสองตัวนี้ไม่ได้อยู่ติดกันนะครับ 
ตัวนึงจะอยู่ด้านบนสุด ทำหน้าที่รับการปรับค่าต่างๆ โดยที่เมื่อเราสัมผัสลงไปที่หน้าจอ 
จะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านทั้งสองชั้น ทำให้เกิดกาสัมผัสกันตรงที่เราสัมผัสพอดี 
และจุดนี้เองจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้า และการคำนวณ
หาตำแหน่งโดยอัตโนมัติ จากนั้นจะมีไดรเวอร์ซึ่งทำหน้าที่แปลงการสัมผัส
ตรงนี้แหละไปเป็นสัญญาณหรือรหัสแล้วส่งไปที่ระบบปฏิบัติการอีกทีนั่นเองครับ

– ตัวเก็บประจุ (capacitive) จะถูกวางไว้ที่ตำแหน่งบนช่องกระจกของหน้าจอ 
เมื่อเราสัมผัสไปที่หน้าจอประจุไฟฟ้าบางส่วนจะส่งกลับมาที่ตัวเราทำให้ประจุไฟฟ้า
ที่อยู่ในเครื่องลดน้อยลง และเมื่อประจุไฟฟ้าลดน้อยลง วงจรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ
การสัมผัสซึ่งถูกวางไว้ที่มุมทั้งสี่มุมของเครื่องจะทำงานทันที โดยส่งข้อมูล
ไปยังคอมพิวเตอร์ โดยใช้ผลต่างของการคำนวณระยะห่างของการสัมผัส
จากทั้งสี่มุมก็จะได้ตำแหน่งที่เราสัมผัสแล้วล่ะครับ 
จากนั้นเครื่องก็จะทำหน้าที่ส่งข้อมูลตรงนี้ไปยังไดรเวอร์เช่นกัน

– คลื่นเสียงที่ผิวของหน้าจอ (surface acoustic wave) ในส่วนหน้าจอ
จะมีระบบตัวรับคลื่นเสียงและส่งสัญญาณคลื่นเสียงอยู่ตลอดเวลาทั้งแนวตั้ง
และแนวนอนของจอภาพ ซึ่งตัวสะท้อนคลื่นเสียงนี้จะทำหน้าที่ส่งสัญญาณ
อิเล็กทรอนิกส์ไปยังตัวอื่นๆ และตัวรับสัญญาณนี้จะทำงานเมื่อถูกรบกวน
โดยการสัมผัสของผู้ใช้งาน จึงสามารถบอกตำแหน่งของการสัมผัสหน้าจอได้ 

และการใช้ระบบคลื่นเสียงจะทำให้หน้าจอสามารถแสดงภาพได้อย่างชัดเจน
มากกว่าระบบอื่นๆ นั่นเองครับ

และนี่คือที่มาที่ไปของการทำงานในระบบของ Touch screen
โดยทั่วๆ ไปนั่นเองครับ แต่ถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญ ในการที่เราจะต้องทำความเข้าใจ
เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการใช้และดูแลเครื่องต่อไปนั่นเอง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ FACEBOOK FANPAGE

ขาย Plc Mitsubishi A-Series ทุกรุ่น


ขาย Plc Mitsubishi A-Series

รับซื้อ- นำเข้า ขาย Plc Mitsubishi A-Series ทุกรุ่น
มีทั้งสินค้าใหม่และ ขาย plc มือสอง ราคาถูก คุณภาพดี เราคัดสรรสินค้าทุกรุ่น

มาเพื่อคุณลูกค้าทุกท่านมาอย่างดี มั่นใจว่าใช้งานได้แน่นอน
เราจะมาแนะนำรุ่น plc A series บางรุ่นนะคะ อาทิเช่น

ขาย plc mitsubishi A series

– PLC MITSUBISHI A6TBXY36,40 pin แท้สีดำ

– PLC MITSUBISHI A1SY81

– PLC MITSUBISHI A1SX42

– PLC MITSUBISHI A1SJ72QLP25

– PLC MITSUBISHI A2USCPU

– PLC MITSUBISHI A1SX80

– PLC MITSUBISHI A2SHCPU-S1

– PLC MITSUBISHI A1SJ71QBR11

– PLC MITSUBISHI A1SX41-S1

– PLC MITSUBISHI A1SJ71AP21

– PLC MITSUBISHI A1SHCPU

– PLC MITSUBISHI A1SJ71LP21

– PLC MITSUBISHI A1SX42-S1

– PLC MITSUBISHI A1SX42

– PLC MITSUBISHI A2SHCPU

– PLC MITSUBISHI A1SY42P

– PLC MITSUBISHI A6TBXY54

– PLC MITSUBISHI A1SY10

– PLC MITSUBISHI A1SX80

– PLC MITSUBISHI A1SHCPU

– PLC MITSUBISHI A1SY41P

– PLC MITSUBISHI A1SX81

– PLC MITSUBISHI A1SY40P

– PLC MITSUBISHI A1SY40

– PLC MITSUBISHI A1SX48Y58,8IN/8OUT transistor sink

– PLC MITSUBISHI A1SH42 ,32IN/32OUT

– PLC MITSUBISHI A1SJ71AT21B

– PLC MITSUBISHI A1SD75P1-S3

– PLC MITSUBISHI A1SD75P3-S3

– PLC MITSUBISHI AY13

– PLC MITSUBISHI AX41

และยังมี A series, Q Series, FX series, plc มือสอง 

และ ยี่ห้ออื่นๆอีกมากมาย ทั้ง plc omron, plc keyence,

plc panasonic, plc nais, plc siemens เป็นต้น

ขาย PLC ในระบบอุตสาหกรรม

พื้นฐาน การเลือกซื้อ PLC แบบง่ายๆ
คุณเคยมีปัญหากับการเลือกซื้อ PLC ตัวแรกหรือไม่ คิดว่าหลายคนคงมีปัญหาแน่นอน เช่น จะหาร้านขาย PLC ที่ไหน ใช้ไฟกี่โวลท์ ใช้ อินพุตเท่าไหร่ เอ้าท์พุตเท่าไหร่ มีอินพุตแบบไหน ใช้ PLC ควบคุมอะไร ใช้ยี่ห้ออะไร ราคาเท่าไหร่ ใช้โปรแกรมไหนในการเขียน เป็นคำถามที่เกิดขึ้นเสมอสำหรับมือใหม่ แล้วคุณมีปัญหาแบบนี้ไหม คิดว่าหลายท่านกำลังเจออยู่อัันที่จริงแล้วไม่ยากเลยใน การเลือกซื้อ PLC แบบง่ายๆ  เราจะรวบรวม 10 วิธีการเลือกซื้อ PLC เบื้องต้นมาให้พิจารณากัน

ข้อที่หนึ่ง PLC ยี่ห้ออะไรบ้าง
พีแอลซีนั้นมีหลายยี่ห้อ ในเมืองไทยมีประมาณสิบยี่ห้อที่เป็นนนิยมในท้องตลาด สามารถหาซื้อได้โดยทั่วไป มีทั้งมือหนึ่งหรือมือสอง ตามงบประมาณและงานที่ได้ออกแบบไว้ หรือโปรเจคสำหรับนักศึกษา เนื่องจากโปรเจคนักศึกษานั้น ต้องการแค่ทดลองให้เกิดผลตามที่ออกแบบโปรแกรมไว้ ไม่จำเป็นต้องนำไปใช้จริง จึงสามารถเลือกใช้ PLC มือสองหรืออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อประหยัดงบประมาณ โดยเราจะแนะนำพีแอลซียี่ห้อต่าง ๆ เช่น

PLC MITSUBISHI เป็น PLC จากประเทศญี่ปุ่นมีราคาย่อมเยา สามารถหาซื้อได้ทั่วไป
มีหลากหลายรุ่น ใช้งานตั้งแต่ โรงจอดรถไปจนถึงโรงงานขนาดใหญ่  รุ่นที่นิยมในประเทศไทยคือรุ่น
FX,FN,IQ,Q รุ่นที่นิยมมากที่สุดคือตระกูล FX หรือช่างจะเรียกว่า FX ซีรีย์ เพราะมีราคาย่อมเยาใช้งานได้หลากหลาย เรียกว่า PLC แบบ all in one ก็ว่าได้เนื่องจากจ่ายไฟเลี้ยงแล้วสามารถใช้งานได้เลย
การเลือกซื้อ PLC แบบง่ายๆ

PLC OMRON เป็น PLจากประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน plc omron มีให้เลือกหลายหลายรุ่น เช่นเดียวกับ plc ยี่ห้ออื่น ๆ รุ่นที่นิยมในท้องตลาดคือรุ่น CP1L,CP1H,CP1E  ซึ่ง OMRON เรียกว่า PLC แบบ BLOCK TYPE หมายถึงในตัว PLC ประกอบไปด้วย แหล่งจ่ายไฟ CPU หน่วยความจำ อินพุต/เอ้าท์พุต สามารถใช้งานได้ทันที
การเลือกซื้อPLCแบบง่ายๆ-3
PLC SIEMENS เป็น PLC จากประเทศเยอรมัน มีรุ่นที่นิยมใช้ในประเทศไทยคือ ตระกูล S7-200,S7-1200,S7-300,S7-400  สามารถเลือกได้ตามความต้องการของแต่ละงาน รุ่นเล็กสุดจะเป็นรุ่น S7-200 ราคาจะถูกที่สุดในตระกูล S7
ข้อที่สอง ใช้ไฟกี่โวลท์
ในส่วนของการใช้ไฟฟ้านั้นต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ความสะดวก ในการปฎิบัติงานเป็นหลัก เนื่องจากโดยทั่วไปนั้น PLC จะสามารถรับแหล่งจ่ายไฟ(แหล่งจ่ายไฟ คือ ไฟที่ต่อเพื่อให้ PLC ทำงาน โดยทั่วไปจะเรียกว่าเพาเวอร์ซับพลาย( POWER SUPPLY) ได้ แบบ คือ
แบบ AC 85-220 โวลท์และ ไฟ DC 24V  อีกส่วนหนึ่งคือไฟอินพุตและเอ้าท์พุต ในส่วนนี้ก็เช่นเดัยวกัน อินพุตสามารถรับไฟได้สองแบบเช่นเดียวกันคือไฟ DC และ AC
เอ้าท์พุตสามารถรับไฟได้สองแบบเช่นเดียวกันคือไฟ DC 24V และ AC 220V คุณต้องตรวจสอบคุณสมบัติของ PLC ในแต่ละยี่ห้อว่าใช้ไฟเลี้ยงเท่าไหร่ อินพุตรับไฟเลี้ยงเท่าไหร่กี่แอมป์ เอ้าท์พุตเป็นชนิดใด เช่น RELAY,TRANSISTOR หรือ TRIAC เราจะมาดู PLC แต่ละยี่ห้อว่ามีการระบุสเปคไว้ว่าอย่างไร เช่น

PLC MITSUBISHI รุ่น FX1S Series อธิบายคร่าว ๆ ได้คือ
ในแถบสีเขียว ในหัวข้อมีคำว่า
MODEL คือรุ่นของ PLC  ในตารางเป็นรุ่น  FX1S-30MT-ESS-UL
INPUT คือ จำนวน อินพุต  เท่ากับ 16
TYPE  ชนิดการต่อใช้ไฟ  24VDC  ได้ทั้ง sink และ source
OUTPUT คือจำนวน เอาต์พุต เท่ากับ 14
TYPE ชนิดของเอาต์พุตเป็น ทรานซิสเตอร์
POWER SUPPLY คือไฟเลี้ยงที่ทำให้ PLC ทำงานได้ ใช้ไฟ 85-264 VAC คือไฟบ้านนี่เอง
DIMENSION จะเป็นเรื่องของขนาด มี กว้าง ยาว สูง
MASS คือน้ำหนัก
ในส่วนแถบสีแดงหัวข้อ OUTPUT ->  TYPE จะเป็น รีเลย์ (Relay)
การเลือกซื้อPLCแบบง่ายๆ-3
ข้อที่สาม INPUT / OUTPUT
ขึ้นอยู่กับรุ่นและราคาของ plc แต่ละยี่ห้อ เนื่องจาก plc แต่ละยี่ห้อสร้างมาเพื่อทำงานในระบบอัตโนมัติ
ตั้งแต่ระบบง่าย ๆ จนถึงซับซ้อน บางยี่ห้อมีแบบ module เพียงอย่างเดียวซึ่งสามารถขยายจำนวน input/output ได้มาก แต่ราคาก็จะแพงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาว่าควรจะใช้เท่าไหร่จึงจะพอเหมาะหรืออาจจะเผื่อไว้ขยายในอนาคตไปเลย

ข้อที่สีี สามารถใช้ input แบบไหนได้บ้าง
โดยทั่วไป input นั้นจะสามารถรับได้ แบบหลัก ๆ คือ
·      input แบบ analog เช่น สามารถรับสัญญานแรงดัน ขนาดต่าง ๆ ตั้งแต่ 1-5 V หรือ 4-20ma
·      input แบบ digital เช่น switch  on/off ทั่ว ๆ ไป

ข้อที่ห้า output มีกี่แบบ
·      แบบรีเลย์ ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากควบคุมโหลดได้ทั้งแบบ เอซี และ ดีซี
·      แบบทรานซิสเตอร์ มีความเร็วสูงมากกว่ารีเลย์มาก ไม่มีส่วนเคลื่อนไหวเหมือนรีเลย์ ข้อเสียคือใช้ได้เฉพาะไฟ ดีซี เท่านั้น
·      แบบไทรแอก เป็น สารกึ่งตัวนำเช่นเดียวกับ ทรานซิสเตอร์ แต้ใช้งานได้เฉพาะไฟ AC เท่านั้น
ข้อที่หก ความจุของหน่วยความจำ
ยิ่งมีมากก็สามารถที่จะเขียนโปรแกรมควบคุมได้มาก แต่ราคาก็จะแพงมากขึ้นไปด้วย

ข้อที่เจ็ด การเชื่อมต่อระบบเครือข่าย
ปัจจุบันนี้มีความสำคัญมากเนื่องจาก ระบบการผลิตขนาดใหญ่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบหาข้อผิดพลาดของกระบวนการผลิตอยู่ตลอดเวลา เพื่อลดปัญหาการขัดข้องในสายพานการผลิต วิธีที่นิยมคือการมอนิเตอร์ระบบควบคุมต่าง ๆ แบบตลอดเวลาเพื่อวิเคราะห์สาเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นหรือเพื่อบำรุงรักษาเชิงป้องกัน   ตัวแอลซีในปัจจุบันจึงต้องสามารถเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายและสามารถมอนิเตอร์ระบบได้จากศูนย์กลางทั้งระยะใกล้คือภายในโรงงานเองหรือระยะไกลจากระบบอินเตอร์เน็ต
บทสรุป
การเลือกซื้อ PLC แบบง่ายๆ นั้นไม่ยากแน่นอน เมื่อได้อ่านบทความนี้แล้วจะพบว่ามีไม่กี่ข้อที่คุณต้องรู้ เพื่อนำไปเลือกซื้อให้ถูกต้องตามงานของคุณ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ https://www.po-recycle.com/contact/
หรือทาง FACEBOOK
ID LINE ฝ่ายขาย : @a-automation


ID LINE ฝ่ายรับซื้อ : @buy-plc

วิธีการต่อวงจร Proximity Sensor

PROXIMITY SENSOR

เป็นอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับวัตถุโดยไม่ต้องสัมผัส แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1. Inductive Proximity Sensor ใช้ตรวจจับวัตถุที่เป็นโลหะ


2. Capacitive Proximity Sensor ใช้ตรวจจับวัตถุเกือบทุกประเภท แต่วัตถุที่ตรวจจับจำเป็นต้องมีปริมาตรที่ไม่น้อยเกินไป


 นอกจากนั้น Proximity Sensor ยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิด Unshielded ซึ่งมีบริเวณตรวจจับกว้าง กระจายไปรอบๆหัวของ proximity  และ ชนิด Shielded ซึ่งมีบริเวณตรวจจับกระจายเฉพาะตัวหน้าบริเวณส่วนหัวของ Proximity




*** การต่อวงจรใช้งาน ***
- การต่อ Proximity Sensor เข้ากับ PLC





- การต่อ Proximity Sensor เข้ากับโหลดรีเลย์